How was your day? วันนี้เป็นยังไงบ้าง?
- Memorable Digital Agency

- Oct 12, 2021
- 1 min read

How was your day? วันนี้เป็นยังไงบ้าง คำถามที่ทำให้กลายเป็นคนสำคัญ
ใครเป็นคอหนังฝรั่งคงได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ เวลาที่สมาชิกในครอบครัวกลับมาถึงบ้าน ภรรยาจะถามสามี พ่อแม่จะถามลูก หรือแม้กระทั่งเพื่อนที่เป็นรูมเมทกัน มักถามกันว่า “How was your day? วันนี้เป็นยังไงบ้าง” บางทีก็ถามกันบนโต๊ะอาหารมื้อค่ำ
อ้วนว่าเป็นวัฒนธรรมที่น่าสนใจและมีคุณค่าในการสื่อสารเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์มากเลยค่ะ
เพราะการถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง เป็นการเปิดบทสนทนาที่ดีมาก คนที่ถูกถามจะรับรู้ได้ทันทีว่าคู่สนทนาของเรา มีความรักและห่วงใย อยากรู้เรื่องความเป็นไปของวันนี้ที่เพิ่งเกิดขึ้น เรื่องที่จะเล่าก็มีสารพัดเรื่องเลยค่ะ ทั้งสุข ทุกข์ โกรธ เหงา เศร้า เคล้าน้ำตา ได้ยินใครมาถามเราแบบนี้ เรื่องเพิ่งเกิดมาหมาดๆ ไม่ว่าจะสุขหรือจะเศร้า ใจมันอยากเล่าทั้งนั้น
เวลาดีใจกับเรื่องไหนมา เราอยากแชร์ให้คนที่เรารักฟังค่ะ เขาจะได้ดีใจ การได้ เย้ๆๆ พร้อมกัน มันสุขใจมาก “พ่อรู้มั้ย วันนี้ผมยิงประตูได้ตั้ง 3 ลูกแน่ะ ทีมเราเลยชนะได้เข้ารอบ”
“คุณๆ วันนี้ชั้นไปซื้อของที่ห้าง จับฉลากชิงโชค ได้คูปองส่วนลด 20% มาตั้ง 3 ใบแน่ะ” (เรื่องนี้สำคัญนะคะ)
วันไหนเจอเรื่องเศร้า เรื่องทุกข์ใจ แค่ได้เล่า ก็เบาลง
“เซ็ง ตอนนี้เจ้านายกดดันผมมากเรื่องเป้ายอดขายปีนี้”
“วันนี้หนูลื่นล้ม ถาดข้าวที่ถือมาหกหมด เพื่อนหัวเราะกันใหญ่ หนูเลยกลายเป็นตัวตลก”
ส่วนคนถามเมื่อถามแล้วก็ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีนะคะ ฟังอย่างตั้งใจ ฟังเพื่อเข้าใจความรู้สึกของคนตรงหน้าเราจริงๆ ว่าเขารู้สึกอย่างไรในสถานการณ์นั้น เพราะการฟังคือการให้เกียรติผู้พูดที่ดีที่สุด ไม่มีอะไรมีค่าเท่ากับเราตั้งใจฟัง จากนั้นค่อยใช้วิธีตั้งคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายได้แสดงความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น คำถามต่อเนื่องจากเรื่องที่เขาเล่าแสดงถึงความใส่ใจ
จากสถิติที่เคยรู้มา 80% ของเรื่องที่เล่า ไม่ได้ต้องการทางออกหรือคำตอบเลยค่ะ เล่าเพราะอยากให้ใครสักคนฟัง ส่วนความคิดเห็นหรือคำแนะนำค่อยพูดตอนที่เขาเอ่ยปากอยากได้ยินจากเรา
เวลาเราฟังใครจริงๆ แม้จะพูดทางโทรศัพท์หรือนั่งห่างกัน แต่คนฟังจะรู้สึกเหมือนมือเราเอื้อมมือไปจับมือเขา กอดคอ ตบไหล่ แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้กัน
เมื่อคนในครอบครัวหรือเพื่อนรักกลับมาถึงบ้าน ลองละสายตาจากจอทีวี วางงาน วางมือถือสักครู่ เพื่อทักทายกัน มนุษย์ทั้งคนเดินเข้ามาในบ้าน ทุกคนล้วนอยากมีตัวตนและสำคัญ เวลาสั้นๆที่ได้ทักทายกัน ช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว
เรามักให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนนอกบ้านเสมอค่ะ เพราะมันเป็นงาน ดูแลลูกค้าอย่างเอาใจใส่ ทำงานให้เจ้านายพึงพอใจ เป็นหัวหน้าที่ดีของลูกน้อง แต่บางครั้งเรากลับเพิกเฉยและมองข้ามความรู้สึกในแต่ละวันของคนใกล้ตัว ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
เกิดปัญหาวันใด ไม่มีพนักพิงไหน ยิ่งใหญ่เท่าคนใกล้ตัว
วันนี้กลับถึงบ้าน อย่าลืมถามไถ่
How was your day? วันนี้เป็นยังไงบ้าง



Comments