กลัวเขาไม่รู้ หรือ กลัวเขาไม่ฟัง
- contact695457
- Feb 14, 2023
- 1 min read
คุณเป็นคนแบบไหนคะเวลาที่ต้องพูด
ระหว่าง “กลัวผู้ฟังไม่รู้” กับ “กลัวผู้ฟังไม่ฟัง” เพราะ 2 แบบนี้ต่างกันค่ะ
แบบแรกคือ “กลัวผู้ฟังไม่รู้”
คนกลุ่มนี้อยากจะสื่อสารทุกเรื่องทุกอย่างที่มีในหัว อยากนำเสนอทุกสินค้าและบริการที่ตัวเองมี เพราะกลัวคนฟังจะไม่รู้ ถ้าเป็น content ที่ต้องจูงใจคนให้เชื่อ แม่น้ำทั้งห้าจะมาครบหมด ถ้าต้องตอบคำถามหรือข้อสงสัยก็จะตอบยาว ประเด็นไหนที่ยังไม่ถูกถามก็ยกมาตอบ พอมีเวลาในการพูดที่จำกัดจึงต้องอัดสิ่งที่ต้องการพูดลงไปให้หมด พูดเร็ว พูดรัว ลนลานไปหมด
แบบหลังคือ “กลัวผู้ฟังไม่ฟัง”
คนกลุ่มนี้หายากมากเลยค่ะ จะเลือกพูดเฉพาะเรื่องที่สำคัญจริงๆ เป็นคน “กลัวยาว” เพราะเกรงว่าถ้าพูดยาวๆแล้วคนจะไม่ฟัง ต่อให้พูดกับลูกน้องหรือพนักงานในองค์กรของตัวเองที่เขามีหน้าที่ต้องฟัง ก็ยังพูดกระชับเฉพาะเรื่องที่ต้องสื่อสารจริงๆ พูดเรื่องเดียวกันแต่พูดกันคนละที่ กับผู้ฟังคนละกลุ่ม ก็จะพูดไม่เหมือนกัน
เวลาอ้วนทำ workshop เรื่องการทำ presentation กับลูกค้าเป็นกลุ่ม หรือ private class กับลูกค้าที่มาทำ personal branding อ้วนจะย้ำเสมอว่า จะนำเสนอในที่ประชุมกลุ่มเล็กๆไม่กี่คน หรือพูดต่อหน้าคนเป็นพันๆ หลักที่ต้องยึดให้มั่นคือเรื่องของผู้ฟัง ทำการบ้านของคนที่จะมาฟังเรามากๆ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น พูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากพูด พูดในสิ่งที่เขาสนใจ และเกี่ยวข้องกับเขา เพราะถ้าไม่เกี่ยวกับเขา เขาจะเสียเวลาฟังไปทำไม
ยุคนี้คนไม่ชอบฟังอะไรยาวๆถ้าไม่น่าสนใจมากจริงๆ เพราะเจ้าโทรศัพท์มือถือมาดึงความสนใจของผู้ฟังไปหมด คำว่าน่าสนใจหมายถึงมีความเกี่ยวเนื่อง สำคัญกับคนฟังมากน้อยแค่ไหน แต่ก่อนเรากลัวมากว่าคนฟังจะคุยกันเอง ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวสุดของผู้พูด คือคนฟังหยิบมือถือขึ้นมาไถเล่น
เวลาจะพูดอะไร พูดให้กระชับ พูดให้ตรงประเด็นดีกว่าค่ะ อย่าไปกลัวคนฟังไม่รู้ทั้งหมด แค่เขาได้รู้สิ่งที่เขาอยากรู้ การพูดของเราก็ประสบความสำเร็จแล้วค่ะ
#publicspeaking #speech #presentation #personalbranding #communication #listening #engagement #การพูด #การนำเสนอ #การฟัง #การสื่อสาร

Comments