การสื่อสารเรื่องวัคซีนกับประชาชน ถอดบทเรียนอิสราเอล

ผู้เสียชีวิตจากโควิดที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวค่ะ และในจำนวนนี้มีหลายคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ด้วยเหตุผลต่างกัน

บางคนกลัวที่จะฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนโควิดยังเป็นของใหม่มาก ไม่อยากตกเป็นหนูทดลอง บางคนไม่มั่นใจในชนิดวัคซีนที่รัฐบาลนำมาฉีดให้

บางคนอยากฉีดมาก แต่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้

เป็นหน้าที่ของรัฐบาล 100% ค่ะ ที่ต้องทำความเข้าใจ ให้ความรู้และสร้างความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ คนไทยและคนทั่วโลกไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้มาก่อน

อยากนำบางส่วนที่คุณสมาดาร์ ชาพีรา รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เคยให้สัมภาษณ์กับ The Standard เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถึงการสื่อสารของรัฐบาลอิสราเอลในการทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนโควิด 19 กับประชาชนในประเทศ

รัฐบาลอิสราเอลสร้าง public awareness หรือความน่าเชื่อถือว่าวัคซีนเป็นสิ่งที่ปลอดภัยโดยใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เป็น mass media สามารถเข้าถึงคนทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็หาวิธีการและเครื่องมือในการสื่อสารที่เฉพาะเจาะจงลงไปเพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มที่มีความเปราะบางและขาดความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ ที่สำคัญ รัฐบาลอิสราเอลยึดหลักความโปร่งใส ระบุชัดเจนถึงหลักเกณฑ์ในการรับวัคซีนว่าเริ่มจากคนอายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคลากรทางการแพทย์เป็นลำดับแรก และไล่ลงไปที่ อายุ 50+ 40+ 30+ ตามลำดับ

รัฐบาลเราก็ทำค่ะเรื่องการรณรงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนเรื่องวัคซีน แต่ทำช้าไป มาปล่อยแคมเปญเอาตอนวัคซีนไม่มีให้ประชาชนฉีด และไม่ได้เลือกทำความเข้าใจกับคนเฉพาะกลุ่ม เรื่องวัคซีนมีทั้งคนพร้อมฉีด กับคนที่ไม่พร้อม ถ้าจะให้ได้ผลก็ต้องถามว่าคนไม่พร้อมนี่มีใครบ้าง ไม่พร้อมเพราะสาเหตุอะไร และต้องทำความเข้าใจกับเขาด้วยเนื้อหาแบบไหน ใช้สื่ออะไร มีใครบ้างไหมที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถจูงใจให้คนเหล่านี้เชื่อ (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นดารา หรือหมอเสมอไป)

ส่วนเรื่องโปร่งใสเนี่ย เรายังห่างไกลจากเขาลิบลับเลยค่ะ